วันพุธที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2556

ต้อหิน ร้ายกว่าที่คิด!!!


ภัยมืดที่น่ากลัว"ต้อหิน"ร้ายกว่าที่คิด

โดย pimchanok
หลายๆ คนอาจเพิ่งทราบว่า วันที่ 10-16 มี.ค. เป็นสัปดาห์วันต้อหินโลก โรคนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่สุดที่ทำให้เกิดการตาบอดในผู้สูงอายุ เพื่อไม่ให้ผู้ใหญ่อันเป็นที่รักของท่านต้องป่วยเป็นต้อหินแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว เตือนภัยวันนี้ ขอนำความรู้ดีๆ มาบอกเล่าเก้าสิบกันเสียหน่อย
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจักษุวิทยา เผยว่า โรคต้อหินเป็นภัยเงียบ มีคนป่วยโดยไม่รู้ตัวกว่า 3 ล้านคน ตาบอดแล้วกว่า 30,000 คน ไม่ได้เป็นเฉพาะผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ผู้ที่อายุ 40 ปีขึ้นไป มีความเสี่ยงสูงมาก ต้องเข้ารับการตรวจตาคัดกรองต้อหินทันทีที่มีโอกาส
เมื่อวันก่อน นพ.ปานเนตร ปางพุฒิพงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านจักษุวิทยา เผยว่า โรคต้อหินเป็นโรคทางตาที่เป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาตาบอดมากเป็นอันดับ 2 รองจากต้อกระจก หากเป็นแล้วจะรักษาให้หายขาดถาวรไม่ได้ แล้วแต่ระดับความรุนแรง บางคนถึงขั้นตาบอดก็มี คาดว่าจำนวนผู้ป่วยอยู่ที่ 3.36 ล้านคน (ประมาณร้อยละ 6)
นพ.ปานเนตร กล่าวต่อว่า โรคต้อหินเกิดจากความดันของน้ำหล่อเลี้ยงในลูกตาผิดปกติ โดยน้ำหล่อเลี้ยงจะถูกสร้างขึ้นภายในลูกตาและถูกขับออกมาภายนอก การสร้างและการขับออกต้องสมดุลกัน ความดันลูกตาจึงเป็นปกติ แต่ถ้าลูกตาสร้างน้ำหล่อเลี้ยงมากหรือน้อยผิดปกติ จะทำให้ความดันในลูกตาสูงขึ้น ขั้วประสาทตาถูกทำลาย ความสามารถในการมองเห็นลดลง
ส่วนใหญ่มักเกิดจากด้านข้างลูกตาก่อน จากนั้นจะมองเห็นภาพมัวที่ขอบตาแต่จะชัดตรงกลาง และจะเริ่มมัวลงไปทั้งหมดจนตาบอด โดยต้อหินที่พบบ่อยที่สุดคือ ชนิดที่มุมตาปิด มักจะไม่มีอาการและเป็นโดยไม่รู้ตัว จะรู้ตัวอีกทีเมื่อสายตาค่อยๆ มัวลง มองด้านข้างไม่ค่อยเห็น
โรคต้อหินชนิดมุมตาปิด คาดว่า มีประมาณร้อยละ 30-40 เกิดในคนที่มีมุมตาแคบ ทำให้ขวางกั้นการระบายน้ำในตาส่งผลให้ความดันลูกตาสูงอย่างเฉียบพลัน จะมีอาการปวดตา ตาแดง ตามัว ปวดศีรษะอย่างรุนแรง บางรายคลื่นไส้อาเจียน เห็นแสงสีรุ้งรอบดวงไฟ หากไม่รักษาภายใน 48 ชม.อาจทำให้ตาบอดได้
วิธีป้องกันโรคต้อหิน แนะนำให้กลุ่มบุคคลอายุ 40 ปีขึ้นไป กลุ่มผู้สูงวัยที่มีประวัติครอบครัวเป็นต้อหิน คนสายตาสั้นหรือยาวมาก ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคเกี่ยวกับเลือดและหลอดเลือด และผู้ที่ใช้ยาหยอดตาพวกสเตียรอยด์ ควรเข้ารับการตรวจวัดความดันลูกตาและขั้นประสาทตาบ้าง และอาจตรวจซ้ำๆ ทุกๆ 1-5 ปี เพื่อไม่ให้ประสาทตาเสื่อมมากขึ้น ทั้งนี้ ปัจจุบันการรักษาโรคต้อหินทำได้หลายวิธี เช่น ใช้ยาหยอดตา รับประทานยา ยิงแสงเลเซอร์ ผ่าตัด แต่เป็นเพียงการระงับไม่ให้ประสาทตาถูกทำลายไปมากกว่าเดิม เพราะไม่สามารถรักษาให้กลับมามองเห็นได้อีกครั้งเหมือนการรักษาต้อกระจก ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อจำกัดขึ้นอยู่กับผู้ป่วยและประเภทของต้อหิน
อย่างที่บอกว่าต้อหินเป็นแล้วเป็นเลย รักษาให้หายขาดไม่ได้ ทางที่ดีไปตรวจตาที่โรงพยาบาลใกล้บ้านโดยเร็วที่สุด เผื่อจะแก้ไขอะไรให้ดีขึ้นได้
จ้องมือถือนานๆ กล้ามเนื้อตาล้าง่าย
นพ.ปานเนตร กล่าวว่า ผู้สูงอายุนอกจากเสี่ยงเป็นโรคต้อหินแล้ว ยังเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนสรีระทางสายตาเข้าสู่ภาวะสายตายาวหรือสายตาคนแก่ หากไม่ได้สวมแว่นสายตาช่วยจะต้องใช้กล้ามเนื้อตาเพ่งมองนานกว่าปกติ กล้ามเนื้อตาล้าและปวดเมื่อยตามาก
ยิ่งถ้าใช้แท็บเล็ต สมาร์ตโฟน ที่มีขนาดตัวหนังสือเล็กๆ กล้ามเนื้อภายในและภายนอกลูกตาจะหดตัวเพื่อปรับระยะโฟกัสและมุมตามองใกล้ แนะนำตัวอักษรที่มองแล้วสบายตาที่สุดคือ พื้นจอสีขาว ตัวอักษรสีดำ ไม่ควรใช้สีเข้ม ไม่เช่นนั้นต้องใช้สายตาเพ่งมากขึ้น


ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น